บทความโดย: สุระพันธ์ ภาสุระพันธ์
ตรวจทานโดย: พลอยชมพู ภาสุระพันธ์, Optometrist
*ภาพเป็นตัวอย่างประกอบเท่านั้นนะครับ
** ไม่อนุญาตให้ดัดแปลงแก้ไขลอกเลียนหรือทำซ้ำ ส่วนใดส่วนหนึ่งของรูปภาพหรือบทความ
เวลาทุกท่านซื้อคอนแทคเลนส์ ใช้อะไรเป็นหลักการในการตัดสินใจครับ ?
ส่วนใหญ่จะคิดถึงค่าอมน้ำเป็นหลัก เพราะคิดว่าถ้าค่าอมน้ำเยอะแล้วเวลาใส่ตาจะไม่แห้ง แต่จริงๆแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดในการเลือกซื้อ
คอนแทคเลนส์คือค่าออกซิเจนครับ
แต่เราควรเข้าใจก่อนครับว่าตาแห้งจากคอนแทคเลนส์มีกี่แบบ
หลักๆ นั้นมี 2 แบบคือ
1.ตาแห้งจากคอนแทคเลนส์ขโมยน้ำจากดวงตาของเรา
มักมาจากการที่เนื้อเลนส์เคลือบผิวไม่ดีทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นในตัวมันเอง ดังนั้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของตัวเลนส์ตลอดเวลาตัวเลนส์จึงขโมยน้ำจากดวงตาเราไปตลอด
2.ตาแห้งจากตาขาดออกซิเจน
เพราะตาได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ คอนแทคเลนส์เทคโนโลยีเก่าส่วนใหญ่จะมีอัตราการไหลออกซิเจนเข้าสู่กระจกตาต่ำ ส่งผลทำให้ตาแห้งได้ง่าย
ในคอนแทคเลนส์รุ่นดั้งเดิมเลนส์ที่อมน้ำมากนั้นดีกว่าเลนส์ที่อมน้ำน้อยเพราะว่ามีค่าออกซิเจนที่สูงกว่าจึงดีต่อสุขภาพตามากกว่า
แต่ในปัจจุบันมีคอนแทคเลนส์รุ่นพัฒนาใหม่ที่ให้ออกซิเจนได้สูงกว่ารุ่นเดิมมากๆแต่ไม่ได้อมน้ำสูง มาถึงตรงนี้คงสงสัยแล้วใช่ไหมครับว่าเราจะเลือกคอนแทคเลนส์อย่างไรดี ลองมาดูข้อดีข้อเสียของเลนส์แต่ละแบบกันครับ
ผมขอแบ่งคอนแทคเลนส์เป็น 3 สูตรเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นนะครับ
Type 1 รุ่นเก่าสูตรอมน้ำน้อยออกซิเจนน้อย (ตระกูลเนื้อ Hydrogel เทคโนโลยีหลาย10ปีที่แล้ว)
ข้อดี
1.ราคาถูก
ข้อเสีย
1.ตัวเลนส์จะไม่นิ่ม
2.ตาขาดออกซิเจนได้ง่ายทำให้ตาแห้งเร็วขึ้นและการขาดออกซิเจนจะส่งผลต่อสุขภาพดวงตาในระยะยาว
Type 2 - สูตรอมน้ำเยอะ ออกซิเจนมาตรฐาน (ตระกูลเนื้อ Hydrogel เทคโนโลยีปัจจุบัน)
ปัจจุบันมีการพัฒนาให้ผิวเลนส์รักษาความชุ่มชื่นและป้องกันเลนส์การขโมยน้ำตา
ข้อดี
1.เนื้อคอนแทคเลนส์จะนุ่ม
2.ออกซิเจนซึมเข้าผ่านตาได้มากขึ้นในระดับมาตรฐานที่ผ่านการรับรอง
ข้อเสีย
1.ถ้าเนื้อคอนแทคเลนส์เคลือบผิวไม่ดีตัวเนื้อคอนแทคเลนส์จะขโมยน้ำจากดวงตาเราได้ ส่งผลทำให้ตาเราแห้งอยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดอมน้ำเยอะ
2.อาการตาแห้งที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้อัตราการไหลเวียนออกซิเจนสู่กระจกตาลดต่ำลง
Type 3 – สูตรออกซิเจนโคตรเยอะ อมน้ำน้อย (ตระกูล Silicone Hydrogel)
ปัจจุบันมีการพัฒนาให้เลนส์มีความนุ่มมากขึ้น
ข้อดี
1.ออกซิเจนไหลเข้ากระจกตาได้มากขึ้นอย่างน้อย3-5เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับตระกูล Hydrogel
2.เนื้อเลนส์จะไม่ขโมยน้ำตาจากดวงตาของเราทำให้โอกาสตาแห้งลดต่ำลง
ข้อเสีย
1.มีค่าอมน้ำน้อยซึ่งส่งผลทำให้เนื้อคอนแทคเลนส์ไม่นุ่ม
ที่กล่าวมา 3 สูตรนั้นเป็นปัจจัยตาแห้งมาจากตัวคอนแทคเลนส์เอง
ปัจจัยภายนอก
ยังมีปัจจัยภายนอกในชีวิตประจำวันหลายอย่าง ทั้งจากสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ ทั้งที่เราสามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ เช่น แอร์ในสำนักงาน ตำแหน่งที่เรานั่ง หรือ สภาพแวดล้อมที่อากาศแห้งมากๆ
ปัจจัยจากร่างกายของเราเอง
ถ้ามีอาการตาแห้งอยู่แล้ว จะใส่สูตรไหนก็แห้งนะครับ คราวนี้ต้องใช้น้ำตาเทียมช่วยแทนนะครับ
มีการวิจัยว่า omega 3 จะช่วยลดอาการตาแห้งได้ (แต่ต้องให้เวลาร่างกายปรับตัวนะครับ ไม่ใช่กินวันนี้แล้วพรุงนี้หายแห้งเลยไม่ใช่นะครับ) แต่การวิจัยบางตัวก็บอกว่าไม่ได้ผลครับ
จะสูตรน้ำเยอะหรือออกซิเจนเยอะ
ไม่มีสูตรไหนดีที่สุดครับ
อันที่ดีที่สุดคืออันที่เหมาะกับสภาพตาของเรามากที่สุด
เพราะตาของเราแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
เพราะตาของคนๆหนึ่งอาจจะใส่สูตรออกซิเจนแล้วแฮปปี้
ในทางกลับกัน คนๆนึงอาจจะใส่สูตรอมน้ำเยอะแล้วแฮปปี้
คอนแทคเลนส์นั้นต้องลองครับ ไม่มีตัวไหนดีที่สุด
!!ย้ำนะครับ อันที่เราใส่สบายที่สุดคืออันที่ยอดเยี่ยมและดีที่สุด
แต่คอนแทคเลนส์
เทคโนโลยีใหม่นั้นย่อมดีกว่าเทคโนโลยีเก่า
เพราะฉะนั้นบริษัทคอนแทคเลนส์ต่างก็ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา อย่างเช่น
Soflens 59 อัพเกรดเป็น Basuch and Lomb Ultra
Soflens 59 นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ออกมานานสักพักแล้วครับ โดยขณะที่ Ultra นั้นเพิ่งออกมา โดยบริษัท Bausch and Lomb ได้ใช้เนื้อ Silicone Hydrogel ในตัว Ultra ดังนั้นตัว Ultra จะมีคุณสมบัติให้ออกซิเจนไหลเข้ากระจกตามากกว่าตัว Soflens 59 ถึง 5 เท่า (แก้อาการตาแห้งได้ดี)
Soflens daily อัพเกรดเป็น Biotrue 1 day
Soflens daily เป็นคอนแทคเลนส์ตระกูล Hydrogel ซึ่งให้ค่าอมน้ำเยอะ แต่ บริษัท Bausch and Lomb ได้พัฒนา Biotrue 1 day ซึ่งเป็นเนื้อวัสดุ Hypergel มีคุณสมบัติที่อมน้ำมากถึง 79% ซึ่งมีค่าอมน้ำเทียบเท่ากับกระจกตาของมนุษย์เลยครับ
Acuvue Clear อัพเกรดเป็น Acuvue Vita
Acuvue Clear เป็นคอนแทคเลนส์รายเดือนของ บริษัท Johnson and Johnson ที่ได้หายไปจากเมืองไทยหลายปีแล้วครับ และได้นำรุ่นใหม่เข้าซึ่งก็คือ Acuvue Vita เป็นเนื้อวัสดุตระกูล Silicone Hydrogel ซึ่งเป็นสูตรออกซิเจนสูงครับ เช่นเดียวกับ Bausch and Lomb Ultra, Acuvue Vitaให้ออกซิเจนไหลเข้ากระจกตามากถึง 5 เท่าจากรุ่นเดิม (แก้อาการตาแห้งได้ดีครับ)
Acuvue Moist เป็นตระกูล Hydrogel บริษัท Johnson and Johnson ได้พัฒนา Acuvue Oasys 1 day ซึ่งเป็นเนื้อ Silicone Hydrogel รุ่นใหม่ ให้ออกซิเจนเข้ากระจกตาสูง เป็นคอนแทคเลนส์รายวันสูตรพรีเมี่ยมครับ (ราคาก็พรีเมี่ยมไปด้วย)
Freshlook Colorblends อัพเกรดเป็น Air Optix Colors
(คอนแทคเลนส์สีตระกูล Silicone Hydrogel ตัวเดียวในไทย)
Air Optix Colors เป็นคอนแทคเลนส์สีรุ่นใหม่ที่พัฒนามาจาก Freshlook Colorblends รุ่นเดิม ที่เปลี่ยนเนื้อวัสดุเป็น Silicone Hydrogel แต่เดิมคอนแทคเลนส์สีจะมีอัตราออกซิเจนไหลเข้ากระจกตาได้น้อย ส่วนมากยังมีความหนามากกว่าคอนแทคเลนส์ใสเพราะมีชั้นสีเพิ่มเติมเข้ามา ดังนั้นผู้ใส่คอนแทคเลนส์สีมักจะมีอาการตาแห้งได้ง่ายขึ้น บริษัท Alcon จึงพัฒนา Air Optix Colors เพื่อแก้ไขอาการตาแห้ง โดยคอนแทคเลนส์ตัวนี้ให้ออกซิเจนไหลเข้ากระจกตามากกว่าตัว Colorblends ถึง 5 เท่าเลยครับ
สุขภาพตาดีได้
1.ห้ามใส่คอนแทคเลนส์นอน
เพราะทำให้ตาขาดออกซิเจนได้และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อที่กระจกตา
2.ทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ทุกครั้ง
ต้องถูทำความสะอาดเลนส์และเปลี่ยนน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ทุกวันนะครับ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อ
3.ใส่แว่นพักกระจกตา 24ชม.
เราใส่คอนแทคเลนส์1วันก็ 8-16 ชม. (แล้วแต่บุคคล) นอนอีก 6-8 ชม. รวมๆ แล้ว 1 อาทิตย์กระจกตาของเราแทบจะไม่ได้พักเลยครับ (ตอนหลับตากระจกตาก็ได้ออกซิเจนน้อยลงเพราะมีเปลือกตามาบังครับ) ซึ่งกระจกตาจะได้รับออกซิเจนเต็มที่ตอนเราลืมตาและไม่ใส่คอนแทคเลนส์เท่านั้นนะครับ ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ ต้องหาเวลาอยางน้อย 1 วันให้กระจกตาได้พักหายใจบ้างนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ